เมนู

2. ภิกษุเสพเมถุนธรรมในมรรค 3 คือ วัจจมรรค ปัสสาวมรรค
มุขมรรค ของอมนุษย์ผู้หญิง ต้องอาบัติปาราชิก.
3. ภิกษุเสพเมถุนธรรมในมรรค 3 คือ วัจจมรรค ปัสสาวมรรค
มุขมรรค ของสัตว์เดรัจฉานตัวเมีย ต้องอาบัติปาราชิก.

อุภโตพยัญชนก 3 จำพวก มีมรรคพวกละ 3 เป็น 9


1. ภิกษุเสพเมถุนธรรมในมรรค 3 คือ วัจจมรรค ปัสสาวมรรค
มุขมรรค ของมนุษย์อุภโตพยัญชนก ต้องอาบัติปาราชิก.
2. ภิกษุเสพเมถุนธรรมในมรรค 3 คือ วัจจมรรค ปัสสาวมรรค
มุขมรรค ของอมนุษย์อุภโตพยัญชนก ต้องอาบัติปาราชิก.
3. ภิกษุเสพเมถุนธรรมในมรรค 3 คือ วัจจมรรค ปัสสาวมรรค
มุขมรรค ของสัตว์เดรัจฉานอุภโตพยัญชนก ต้องอาบัติปาราชิก

บัณเฑาะก์ 3 จำพวก มีมรรคพวกละ 2 เป็น 6


1. ภิกษุเสพเมถุนธรรมในมรรค 2 คือ วัจจมรรค มุขมรรค ของ
มนุษย์บัณเฑาะก์ ต้องอาบัติปาราชิก.
2. ภิกษุเสพเมถุนธรรมในมรรค 2 คือ วัจจมรรค มุขมรรค ของ
อมนุษย์บัณเฑาะก์ ต้องอาบัติปาราชิก.
3. ภิกษุเสพเมถุนธรรมในมรรค 2 คือ วัจจมรรค มุขมรรค ของ
สัตว์ดิรัจฉานบัณเฑาะก์ ต้องอาบัติปาราชิก.

ชาย 3 จำพวก มีมรรคพวกละ 2 เป็น 6


1. ภิกษุเสพเมถุนธรรมในมรรค 2 คือ วัจจมรรค มุขมรรค ของ
มนุษย์ผู้ชาย ต้องอาบัติปาราชิก

2. ภิกษุเสพเมถุนธรรมในมรรค 2 คือ วัจจมรรค มุขมรรค ของ
อมนุษย์ผู้ชาย ต้องอาบัติปาราชิก.
3. ภิกษุเสพเมถุนธรรมในมรรค 2 คือ วัจจมรรค มุขมรรค ของ
สัตว์ดิรัจฉานตัวผู้ ต้องอาบัติปาราชิก.
[39]

อาบัติปาราชิก 30


1. เมื่อเสวนจิตปรากฏ ภิกษุสอดองค์กำเนิดเข้าในวัจจมรรคของ
มนุษย์ผู้หญิง ต้องอาบัติปาราชิก.
2. เมื่อเสวนจิตปรากฏ ภิกษุสอดองค์กำเนิดเข้าในปัสสาวมรรคของ
มนุษย์หญิง ต้องอาบัติปาราชิก.
3. เมื่อเสวนจิตปรากฏ ภิกษุสอดองค์กำเนิดเข้าในมุขมรรคของ
มนุษย์ผู้หญิง ต้องอาบัติปาราชิก.
4. เมื่อเสวนจิตปรากฏ ภิกษุสอดองค์กำเนิดเข้าในวัจจมรรคของ
อมนุษย์ผู้หญิง ต้องอาบัติปาราชิก.
5. เมื่อเสวนจิตปรากฏ ภิกษุสอดองค์กำเนิดเข้าในปัสสาวมรรคของ
อมนุษย์ผู้หญิง ต้องอาบัติปาราชิก.
6. เมื่อเสวนจิตปรากฏ ภิกษุสอดองค์กำเนิดเข้าในมุขมรรคของ
อมนุษย์ผู้หญิง ต้องอาบัติปาราชิก.
7. เมื่อเสวนจิตปรากฏ ภิกษุสอดองค์กำเนิดเข้าในวัจจมรรคของ
สัตว์ดิรัจฉานตัวเมีย ต้องอาบัติปาราชิก.
8. เมื่อเสวนจิตปรากฏ ภิกษุสอดองค์กำเนิดเข้าในปัสสาวมรรคของ
สัตว์ดิรัจฉานตัวเมีย ต้องอาบัติปาราชิก.